ฉบับอักษรโรมัน (Roman-Script Edition)
โครงการพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2542-2562 :
ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ
ชุด 40 เล่ม พ.ศ. 2500
กำเนิด
กองทุนสนทนาธัมม์นำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล. มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (ปัจจุบันดำเนินงานโดยมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล ตั้งแต่ พ.ศ. 2555) ได้ริเริ่มโครงการพระไตรปิฎกสากล ใน พ.ศ. 2542 เนื่องจากท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้รับการบอกบุญจากต่างประเทศให้อุปถัมภ์การพิมพ์พระไตรปิฎกซึ่งบันทึกพระพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยจัดพิมพ์เป็นอักษรโรมัน (Roman Script)
พระไตรปิฎกปาฬิ ชุดสมบูรณ์ 40 เล่ม ที่จัดพิมพ์ด้วยอักษรโรมัน ตามการสังคายนาสืบทอดเป็น ปาฬิภาสา (Pāḷi Bhāsā หรือเดิมเรียกกันว่า ภาษาบาลี) ในพระพุทธศาสนาเถรวาทตลอดระยะเวลากว่า 25 พุทธศตวรรษ ชุดนี้ยังมิเคยมีการจัดพิมพ์เป็น อักษรโรมันชุดสมบูรณ์มาก่อน ณ ที่ใดในโลก
ผู้ก่อตั้งโครงการพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2542
ต้นฉบับปาฬิ
ต้นฉบับพระไตรปิฎกปาฬิฉบับนี้ รู้จักกันโดยทั่วไปว่า พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับฉัฏฐสังคีติ (Chaṭṭhasaṅgīti Tipiṭaka Edition) พิมพ์เสียงปาฬิด้วยอักษรพม่า เป็นผลงานการประชุมสังคายนาระดับนานาชาติครั้งเดียวของโลก ซึ่งพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเถรวาทผู้ทรงความรู้พระไตรปิฎกปาฬิจากนานาชาติทั่วโลกได้ประชุมออกเสียงสวดเป็นปาฬิภาสา และบันทึกเป็นพระไตรปิฎก อักษรพม่า ณ นครย่างกุ้ง ระหว่าง พ.ศ. 2496-2500
ฉบับอักษรพม่า พ.ศ. 2500 อ้างอิงฉบับอักษรสยาม พ.ศ. 2436
ปัจจุบันจัดพิมพ์เป็นฉบับอักษรโรมัน พ.ศ. 2548
ประมุขพุทธมามกะและผู้แทนรัฐบาลต่างๆ ได้แสดงความยินดีถึงความสำเร็จในการประชุมสังคายนานานาชาติดังกล่าว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯ ไปทรงร่วมอนุโมทนา ณ สถานที่สังคายนา ในวโรกาสที่เสด็จเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2503 ในการนี้ประธานาธิบดีพม่าได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระไตรปิฎก ฉบับฉัฏฐสังคีติชุด 40 เล่ม (ดูภาพปกสีแดง) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันพระไตรปิฎกปาฬิฉบับนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระไตรปิฎกที่เป็นมาตรฐานในระดับนานาชาติของพระพุทธศาสนาเถรวาททั่วโลก
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 ผู้ทรงเป็นผู้แทนผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฎกปาฬิจากประเทศไทย ได้ทรงเข้าร่วมการประชุมสังคายนานานาชาติ พ.ศ. 2500 และในการตรวจทานเพื่อจัดพิมพ์ใหม่ใน พ.ศ. 2542 ได้ทรงมีพระบัญชาประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจทานและจัดพิมพ์ในโครงการพระไตรปิฎกสากล โดยได้ประทานชื่อพระไตรปิฎกชุดที่จัดพิมพ์ใหม่เป็นอักษรโรมัน ว่า Mahāsaṅgīti Tipiṭaka Buddhavasse 2500 และชื่อเป็นภาษาไทยว่า พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. 2500 พิมพ์อักษรโรมัน พ.ศ. 2548 (The Buddhist Era 2500 Great International Council Pāḷi Tipiṭaka, Roman Script 2005)
ในการจัดเตรียมต้นฉบับอักษรโรมัน โครงการพระไตรปิฎกสากล ได้ทำการค้นคว้าหาต้นฉบับชุดเดียวกับที่ประธานาธิบดีพม่าได้ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งคาดว่าพิมพ์หลังการสังคายนา พ.ศ. 2500 พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับต้นฉบับยกร่างที่สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงนำกลับมาจากประเทศพม่า พิมพ์ พ.ศ. 2498 และอีกฉบับหนึ่งจากมูลนิธิภูมิพโลภิกขุซึ่งทำสำเนามาจากพระธัมมานันทะมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง สันนิษฐานว่าพม่าจัดพิมพ์ในปีที่จบการสังคายนา พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นหลักฐานของการจบงานสังคายนา (ดูรายละเอียดต้นฉบับอักษรพม่า ในคำนำพระไตรปิฎกสากล โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ป.อ. ปยุตโต))
นอกจากนี้ยังได้ใช้ข้อมูลบางส่วนของต้นฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 2 แหล่ง ซึ่งรวมฉบับอิเล็กทรอนิกส์จากสถาบันวิจัยวิปัสสนา VRI ซึ่งโครงการพระไตรปิฎกสากลได้รับมอบเป็นธัมมทานจากท่าน เอส เอ็น โกเอ็นก้า เป็นฐานข้อมูลเบื้องต้น
การตรวจทาน
ในการดำเนินงานคณะกรรมการตรวจทานได้พบว่าทั้งข้อมูลฉบับพิมพ์และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวยังมีข้อบกพร่องและมีการพิมพ์ผิดพลาด ซึ่งได้ทำเครื่องหมายข้อแตกต่างที่สำคัญรวมจำนวนประมาณ 40,000 ตำแหน่ง เพื่อแก้ไข นอกจากนี้ในต้นฉบับอักษรพม่าเล่มที่ 39-40 คณะกรรมการตรวจทานยังพบว่าพระไตรปิฎก อักษรพม่า ที่พิมพ์ขึ้นภายหลังการสังคายนา มิได้พิมพ์ตามมติของคณะสงฆ์ เพราะในบทหมายเหตุ หรือ วิญญาปนัง (viññapanaṁ) กล่าวไว้ว่ามิได้จัดพิมพ์รายละเอียดที่เรียกว่า สังขยาวาระ (saṅkhayāvāra) (เลขจำนวนองค์ธัมม์) ดังนั้นโครงการพระไตรปิฎกสากลจึงต้องดำเนินการตรวจทานต้นฉบับใหม่ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยตรวจสอบกับฉบับอื่นๆ (ดูการอ้างอิงเลขหน้ากับฉบับอื่นๆ ที่สำคัญของโลก 12 ฉบับ) ด้วยวิธีพิเศษ คือ การออกเสียงปาฬิด้วยการอ่านสัชฌายะ (Pāḷi Recitation) โดยผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฎกจากมูลนิธิภูมิพโลภิกขุและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อตรวจสอบการพิมพ์เสียงปาฬิตามต้นฉบับ และแก้ไขคำพิมพ์ผิดให้ถูกต้อง พร้อมทั้งเพิ่มเติมข้อมูลต่างๆ รวมทั้ง สังขยาวาระ ดังกล่าวด้วย รวมจำนวนแก้ไขเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกปาฬิทั้งชุด 40 เล่ม ที่ตรวจทานแล้ว มีจำนวนคำทั้งสิ้น 2,708,706 คำ หรือ 9,442,442 พยางค์ หรือ 20,606,104 อักษรโรมัน ใช้เวลาดำเนินการรวม 6 ปี
กล่าวโดยสรุป จากการตรวจทานต้นฉบับฉัฏฐสังคีติ อักษรพม่า พ.ศ. 2500 และต้นฉบับอิเล็กทรอนิกส์ที่องค์กรต่างๆ ได้ปริวรรตจาก อักษรพม่า เป็น อักษรโรมัน และ อักษรไทย โดยเผยแผ่ในระบบอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน เช่น สถาบัน VRI ที่อ้างอิงกับ ฉบับฉัฏฐสังคีติ พ.ศ. 2500 และ เว็บไซต์พระไตรปิฎก 84000.org ที่อ้างอิงกับฉบับสยามรัฐ พ.ศ. 2470 นั้น ก็ยังมีเนื้อหาไม่แม่นตรงกับ ฉบับฉัฏฐสังคีติ พ.ศ. 2500 หรือ ฉบับสังคายนานานาชาติที่เป็นมาตรฐานของโลก ซึ่งปัจจุบันได้ตรวจทานใหม่และจัดพิมพ์เป็นฉบับอักษรโรมันชุดสมบูรณ์เป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2548 และปรับปรุงเป็นสัททะอักขะระ (Phonetic Alphabet) พ.ศ. 2562 มีชื่อว่า พระไตรปิฎกฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. 2500 ซึ่งโครงการพระไตรปิฎกสากลจัดพิมพ์ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ
ข้อสรุปนี้มิได้หมายว่าพระไตรปิฎกฉบับอื่นๆ ไม่ถูกต้อง แต่หมายถึงการเรียงพิมพ์ในบางส่วนยังมีความบกพร่อง ซึ่งปัจจุบันการใช้หลักวิชาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถพิสูจน์ได้ในรายละเอียด และแก้ไขการพิมพ์ให้สมบูรณ์ได้ ด้วยเหตุนี้ การสืบค้นต้นฉบับพระไตรปิฎก ประวัติการสังคายนา สำนักพิมพ์ และปีที่จัดพิมพ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการอ้างอิง
การสร้างพระไตรปิฎกย่อมเป็นมหากุศลเสมอ ตามกุศลปัญญาและศรัทธาของผู้สร้าง
ส่วนหนึ่งของต้นฉบับการตรวจทาน ซึ่งพบข้อแตกต่างจากต้นฉบับสังคายนานานาชาติ
ปาฬิภาสา-อักษรพม่า ที่พิมพ์ขึ้นภายหลัง พ.ศ. 2506
ต้นฉบับการตรวจทาน
ผลการตรวจทานและจัดพิมพ์เป็นอักษรโรมัน
โครงการพระไตรปิฎกสากล ได้เพิ่มข้อมูลอ้างอิงเลขหน้ากับพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรต่างๆ ไม่น้อยกว่า 12 ฉบับ ของโลกจากการตรวจทานที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในคลังพระไตรปิฎกอักษรนานาชาติกว่า 2,000 เล่ม โดยได้มอบเป็นธัมมบรรณาการแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันประดิษฐาน ณ หอพระไตรปิฎกนานาชาติ ในอาคารมหาจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่แห่งแรกของมหาวิทยาลัย
เพื่อสรุปผลการตรวจทานสำหรับนักวิชาการที่จะทำการศึกษาต่อไป (World Tipiṭaka Critical Apparatus) โครงการพระไตรปิฎกสากลจึงได้จัดทำเป็นข้อมูลพระไตรปิฎกศึกษาอ้างอิง โดยเฉพาะ คำที่พิมพ์ต่างกัน (Variant Readings) แบ่งเป็นรายละเอียดต่างๆ จำนวน 6 เล่ม ซึ่งจัดพิมพ์เป็นชุด พระไตรปิฎกอ้างอิงสากล ชุด 40 เล่ม พ.ศ. 2551
ปาฐกถาพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2546
ศาสตราจารย์วิสุทธิ์ บุษยกุล ประธานโครงการพระไตรปิฎกสากล และราชบัณฑิต ร่วมกับอาจารย์สิริ เพ็ชรไชย ป.ธ.9 ประธานกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ฯ ได้เชิญท่าน เอส เอ็น โกเอ็นก้า ประธานสภาบันวิจัยวิปัสสนา มาร่วมประชุมและแจ้งผลการตรวจทานดังกล่าวในโอกาสที่โครงการพระไตรปิฎกสากลเชิญท่านมาแสดงปาฐกถาเรื่อง พระไตรปิฎกกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เนื่องในวาระ 100 ปี พระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2546 ต่อมาศาสตราจารย์วิสุทธิ์ บุษยกุล ได้เปิดเผยข้อมูลการตรวจทานของโครงการพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน ของการแสดงปาฐกถาพิเศษในที่ประชุมทางวิชาการของสมาคมพระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติ ครั้งที่ 13 (International Association of Buddhist Studies XIII) ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2546
เอส เอ็น โกเอ็นก้า เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ
ศาสตราจารย์วิสุทธิ์ บุษยกุล (ขวา)
ปาฐกถาพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2545
งานตรวจทานที่ละเอียดประณีตนี้สำเร็จได้ด้วย เทคโนโลยีธัมมะ คือ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและพอเพียงในทางธัมมะ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น ภายใต้การดำเนินงานทางวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้มีศรัทธาและมีความรู้ในพระพุทธศาสนาเถรวาท โครงการพระไตรปิฎกสากล ระหว่าง พ.ศ. 2543-2548 ได้ใช้เวลาตรวจทาน 3 ปี ประมาณ 80,000 ชั่วโมง และต่อมาอีก 2 ปี จำนวนกว่า 20,000 ชั่วโมง ในการบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อวางรูปแบบต้นฉบับและจัดการพิมพ์
นอกจากนี้ระหว่าง พ.ศ. 2549-2562 โครงการพระไตรปิฎกสากลได้ทำการศึกษาอักขรวิธีอักษรสยามในพระไตรปิฎก จ.ป.ร. พ.ศ. 2436 และสร้างเป็นโปรแกรมตัดพยางค์อัตโนมัติ สิทธิบัตรเลขที่ 46390 ตลอดจนพัฒนาเป็นฐานข้อมูลสัททะอักขะระปาฬิ (Phonetic Alphabet)
เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัล และการเข้ารูปเล่ม
Hewlett Packard & Sinar Camera
การควบคุมคุณภาพของการตรวจทาน สัมฤทธิผลได้ด้วยการบูรณาการระหว่างผู้เชี่ยวชาญสหวิชาการ ซึ่งโครงการพระไตรปิฎกสากล ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากคณะสงฆ์ ตลอดจนผู้ทรงความรู้ในวิชาการต่างๆ จากสถาบันในประเทศต่างๆ มีนวัตกรรมที่สำคัญ คือ รูปแบบใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลพระไตรปิฎกเป็นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาสาสมัครจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาชิกกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ได้พัฒนาเป็นมาตรฐานสากลขึ้นเป็นครั้งแรก
ฐานข้อมูลพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน
สมเด็จพระญาณสังวรฯ องค์พระสังฆราชูปถัมภ์
ทรงตรวจต้นฉบับอักษรโรมัน พ.ศ. 2545
มาตรฐานผลงาน
มาตรฐานแรก มาตรฐานการพิมพ์พระไตรปิฎกสากล (Publication Standard) ได้แก่ การใช้ระบบเรียงพิมพ์ที่ทันสมัย (Latex Digital Typesetting) จัดพิมพ์พระไตรปิฎกสากลด้วยอักษรโรมัน ซึ่งเป็นอักษรสากลของโลกที่นานาชาติสามารถอ่านออกเสียงปาฬิได้
มาตรฐานที่สอง คือ มาตรฐานอิเล็กทรอนิกส์แบบเปิดที่เป็นสากลของฐานข้อมูลพระไตรปิฎกปาฬิ (Electronic Open Standard of Pāḷi Tipiṭaka Database) ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาในเทคโนโลยีสารสนเทศในระบบสากลต่อไปได้
มาตรฐานที่สาม คือ มาตรฐานการศึกษาพระไตรปิฎกปาฬิในพระพุทธศาสนาเถรวาท ได้แก่ ระบบการศึกษาพระไตรปิฎกอ้างอิงระดับนานาชาติ (International Tipiṭaka Studies Reference) ซึ่งได้นำเสนอด้วยกระบวนวิธีที่สืบทอดมาในพระพุทธศาสนาเถรวาท อาทิการสังคายนา และการสัชฌายะการออกเสียงปาฬิ เป็นต้น พร้อมทั้งระบบพระไตรปิฎกศึกษา ที่เรียกว่า ชุดพระไตรปิฎกอ้างอิงสากล อักษรโรมัน ซึ่งจัดพิมพ์เป็นชุด 40 เล่ม ครั้งแรกใน พ.ศ. 2551
พระไตรปิฎกอ้างอิงสากล ชุด 40 เล่ม พ.ศ. 2551
การเผยแผ่ชุดปฐมฤกษ์เป็นพระธัมมทาน
การประกาศการดำเนินงานโครงการพระไตรปิฎกสากลอักษรโรมัน ได้จัดขึ้นเป็นพิเศษทั้งในการประชุมทางพระพุทธศาสนา และในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศระหว่าง พ.ศ. 2545-2546 และในปี พ.ศ. 2547 ได้ประกาศการดำเนินงานครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการในงานปาฐกถาพิเศษหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ หอประชุมใหญ่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรุงเทพฯ เรื่อง 112 ปี พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับจุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช ร.ศ. 112 : พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับพิมพ์ชุดแรกของโลก เทคโนโลยีธัมมะสู่โลกโดยคนไทย (ดู สูจิบัตร 112 ปี พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับจุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช ร.ศ. 112 : พระไตรปิฎกปาฬิ ฉบับพิมพ์ชุดแรกของโลก เทคโนโลยีธัมมะสู่โลกโดยคนไทย)
พ.ศ. 2548 โครงการพระไตรปิฎกสากล ได้เริ่มดำเนินการพิมพ์พระไตรปิฎกสากล ชุด 40 เล่ม เพื่อเป็นพระธัมมทานจากชาวไทยแก่สถาบันในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงเป็นกุลเชษฐ์พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระกรุณาธิคุณรับเป็นประธานกิตติมศักดิ์การพระราชทานและประดิษฐานพระไตรปิฎกสากลในนานาประเทศ และต่อมาได้พระราชทานพระไตรปิฎกสากลชุดปฐมฤกษ์ 3 ชุด ตามรอยประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้จัดพิมพ์พระไตรปิฎกปาฬิ เป็นฉบับอักษรสยาม ชื่อว่า พระไตรปิฎกจุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช ร.ศ. 112 (2436) อักษรสยาม โดยได้พระราชทานแก่นานาประเทศทั่วโลกเมื่อศตวรรษที่แล้ว
การจัดพิมพ์ต้นฉบับพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรโรมัน ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. 2500 ชุดต้นแบบ ขนาดใหญ่พิเศษ ได้พิมพ์เป็นครั้งแรกโดยโครงการพระไตรปิฎกสากล เมื่อ พ.ศ. 2545 พร้อมด้วยรายละเอียดการทำงาน 35 รายการเป็นนวัตกรรมต่างๆ ในโครงการ เป็นคู่มือประกอบเพื่อการศึกษาวิจัยต่อไป นอกจากนี้ยังมีจดหมายเหตุต่างๆ ได้แก่ ต้นฉบับเอกสารการตรวจทาน 4 ชุด หรือจำนวน 160 เล่ม ประมาณ 80,000 หน้า จดหมายเหตุพระไตรปิฎกอิเล็กทรอนิกส์ 220 เมกะไบท์ คลังวีดีทัศน์จดหมายเหตุดิจิทัลกว่า 500 ชั่วโมง หรือ 6,500 กิกะไบท์ ซึ่งได้บันทึกงานโครงการระหว่าง พ.ศ. 2542-2548 นอกจากนี้ระหว่าง พ.ศ. 2558-2560 ได้มีการบันทึกการออกเสียงปาฬิในระบบดิจิทัลรวมความยาว 3,052 ชั่วโมง หรือ 1.6 เทระไบต์ และบางส่วนได้จัดทำเป็นสารคดี พระไตรปิฎกคำสอนมีชีวิต ใน พ.ศ. 2562
ดู สถาบันสำคัญนานาชาติที่ได้รับพระราชทาน
พระราชทานเป็นปฐมฤกษ์ กรุงโคลัมโบ ศรีลังกา
6 มีนาคม พ.ศ. 2548
พระราชทานแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา (ฯพณฯ จันทริกา บันดาราไนยเก กุมาราตุงคะ) ในฐานะที่ศรีลังกาเป็นประเทศที่จารพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรกในโลก ประดิษฐาน ณ ทำเนียบประธานาธิบดีแห่งศรีลังกา นครโคลัมโบ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2548
พระราชทานแก่ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (นายผัน จันทรปาน) สำหรับประชาชนชาวไทย ประดิษฐาน ณ ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพมหานคร วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2548
พระราชทานแก่อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุปซาลา (ศาสตราจารย์ ซุนด์ควิสต์) สำหรับราชอาณาจักรสวีเดน ผู้แทนสถาบันในโลกตะวันตก ประดิษฐาน ณ หอแห่งหนังสือ ห้องสมุดคาโรลีนา เรดิวีว่า ราชอาณาจักรสวีเดน วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2548
ประดิษฐานพระไตรปิฎกเป็นพระธัมมทาน
หลังจากการพระราชทานเป็นปฐมฤกษ์ พ.ศ. 2548 และเพื่อให้สาธารณชนชาวไทยได้มีส่วนร่วมในการเผยแผ่พระธัมมทาน จึงได้มีการจัดพิธีพระราชทานพระไตรปิฎกสากลในประเทศไทยก่อนการอัญเชิญพระไตรปิฎกสากลไปประดิษฐานในนานาประเทศ เช่น พ.ศ. 2550 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ได้ขอพระราชทานพระไตรปิฎกสากลอักษรโรมัน สำหรับประดิษฐาน ณ สาธารณรัฐอินเดีย สมเด็จกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์ประธานกิตติมศักดิ์ฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เสด็จอัญเชิญพระไตรปิฎกสากลไปพระราชทานแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและผู้อุปถัมภ์พระไตรปิฎก ณ กระทรวงการต่างประเทศ ในวันที่ 6 มีนาคม (วันพระราชทานพระไตรปิฎกสากลชุดปฐมฤกษ์) สำหรับอัญเชิญไปประดิษฐานในสาธารณรัฐอินเดียต่อไป ซึ่งต่อมาผู้อุปถัมภ์พระไตรปิฎกสากลได้อัญเชิญพระไตรปิฎกชุดนี้ไปประดิษฐาน ณ สมาคมมหาโพธิแห่งประเทศอินเดีย พุทธคยา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 เป็นต้น
สมาคมมหาโพธิ พุทธคยา พ.ศ. 2551
นโยบายการพระราชทานพระไตรปิฎกสากลอักษรโรมันในต่างประเทศ
ในเอกสารการพระราชทานพระไตรปิฎกสากลจากเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. 2549 ได้ทรงกำหนดนโยบายสำหรับการพระราชทานพระไตรปิฎกสากลเป็นลำดับแรกแก่สถาบันสำคัญนานาชาติทั่วโลกที่ได้ขอพระราชทานมาอย่างเป็นทางการ และจะพระราชทานแก่สถาบันที่ส่งเสริมการศึกษาฐานปัญญาเพื่อสันติสุข หรือเป็นสถาบันที่เคยได้รับพระราชทานพระไตรปิฎกปาฬิฉบับ ìจุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช ร.ศ. 112 (2436) อักษรสยาม ในอดีตและปัจจุบันยังคงรักษาไว้อย่างดี
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้อุปถัมภ์พระไตรปิฎกสากลได้อัญเชิญพระไตรปิฎกสากลชุดพระราชทานไปประดิษฐานเป็นพระธัมมทาน ณ สถาบันต่างๆ เช่น ประธานศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและได้อัญเชิญไปพระราชทานและประดิษฐาน ณ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (2550) ประธานศาลฎีกาแห่งราชอาณาจักรไทยอัญเชิญไปพระราชทานและประดิษฐาน ณ ศาลฎีกาแห่งราชอาณาจักรไทย (2550) สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงอัญเชิญไปพระราชทานและประดิษฐาน ณ สถาบันต่างๆ รวม 18 สถาบันในประเทศญี่ปุ่น (2551) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงอัญเชิญไปพระราชทานแด่สมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศเมียนมาร์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร (2554)
พุทธสถานชิเตนโนจิ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
เนื่องด้วยพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน ชุด 40 เล่ม เป็นต้นฉบับที่ใช้อ้างอิงในการสร้างฉบับสัชฌายะ ชุด ภ.ป.ร. (ต้นฉบับปาฬิภาสา) และ ชุด ส.ก. (โน้ตเสียงปาฬิ) รวมชุด 80 เล่ม ในปี พ.ศ. 2560 มูลนิธิพระไตรปิฎกสากลนำโดยท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ ได้เข้าเฝ้าฯ น้อมเกล้าฯ ถวายพระไตรปิฎกสากล ฉบับสัชฌายะ ชุด ภ.ป.ร. และชุด ส.ก. แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นองค์ประธานการสร้างฉบับสัชฌายะ พ.ศ. 2559 และองค์พระบรมราชูปถัมภ์โครงการพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2545 ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
พ.ศ. 2562 โครงการพระไตรปิฎกสากลได้ปรับปรุงการพิมพ์ใหม่และทำดัชนีคำ (Index) เทียบกับสัททะอักขะระสากล (IPA) โดยอ้างอิงอักขรวิธีการออกเสียงปาฬิกับต้นฉบับ จ.ป.ร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436 ซึ่งมีการจัดพิมพ์สัททสัญลักษณ์แสดงการแบ่งพยางค์เสียงสะกดแยกออกจากเสียงกล้ำอย่างเด็ดขาดและชัดเจน
ถวายฉบับอักษรโรมัน แด่สมเด็จพระสังฆราชพม่า
ฉบับอักษรโรมัน สำหรับศาลฎีกา พ.ศ. 2558
ระหว่าง พ.ศ. 2548-2562 โครงการพระไตรปิฎกสากลได้จัดพระราชทานพระไตรปิฎกสากล อักขะระโรมัน เป็นพระธัมมทานในสมเด็จพระกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์โครงการพระไตรปิฎกสากล จำนวนไม่น้อยกว่า 160 สถาบัน ใน 25 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน (The British Library) ซึ่งทางประเทศอังกฤษได้เชิญท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิพระไตรปิฎกสากลเป็นผู้จัดเป็นพระธัมมทานในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 อันบรรจบเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์พระสังฆราชูปถัมภ์โครงการพระไตรปิฎกสากล ซึ่งปัจจุบันได้รับโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระอัฐิเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
การดำเนินงานในวาระครบรอบ 20 ปี
ปัจจุบันชุดอักษรโรมันได้พัฒนาเป็นฐานข้อมูลพระไตรปิฎกสากลเพื่อสร้างเป็นนวัตกรรมการบันทึกพระไตรปิฎกสากลซึ่งพัฒนาจากวิชาการภาษาศาสตร์สู่ดุริยางคศาสตร์ที่ไม่เคยมีการจัดทำมาก่อน โดยปริวรรตการเขียนเสียงปาฬิจากวิธีการถอดเสียงอย่างละเอียด (Pāḷi Phonetic Transcription) เป็น สัททะอักขะระ-ปาฬิ (Pāḷi Phonetic Alphabet) และ โน้ตเสียงปาฬิ (Pāḷi Notation) เรียกว่า ฉบับสัชฌายะ (Sajjhāya Phonetic Edition) ชุด ภ.ป.ร. ต้นฉบับปาฬิภาสา (Pāḷi Manuscript) ชุด 40 เล่ม และชุด ส.ก. โน้ตเสียงปาฬิ (Pāḷi Notation) ชุด 40 เล่ม พ.ศ. 2559 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณารับเป็นองค์ประธานการสร้างฉบับสัชฌายะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในวาระทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี พ.ศ. 2559
มูลนิธิฯ ถวายพระไตรปิฎกสัชฌายะ
ซึ่งอ้างอิงจากพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน
โน้ตเสียงปาฬิ ชุด ส.ก. ปัจจุบันได้จัดพิมพ์เป็นชุดสมบูรณ์ ชุด 250 เล่ม รวม 4 เวอร์ชั่น และได้ใช้ในการบันทึกเสียงในระบบดิจิทัลโดยผู้เชี่ยวชาญทางดุริยางค์และไวยากรณ์การออกเสียงในพระไตรปิฎก เพื่อผลิตเป็น เสียงสัชฌายะดิจิทัล (Digital Sajjhāya Recitation Sound) จากต้นฉบับพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน ทั้งชุด 40 เล่ม รวมเวลาการออกเสียงสัชฌายะดิจิทัลทั้งสิ้น 3,052 ชั่วโมง หรือความจุ 1.6 เทราไบต์ในระบบอิเล็กทรอนิกส์
จากความสำเร็จในการสร้างพระไตรปิฎกเสียงสัชฌายะดิจิทัลดังกล่าว อันนับเป็นการถอดเสียงปาฬิในพระไตรปิฎกสากลอย่างละเอียดพร้อมทั้งบูรณาการต่อยอดเป็นโน้ตเสียงปาฬิในทางดุริยางคศาสตร์ ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 ผลงานวิจัยโน้ตเสียงปาฬิชุดนี้ได้รับรางวัลพระราชทานผลงานวิจัยดีเด่นจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระบุว่าเป็นการบันทึกเสียงปาฬิในพระไตรปิฎกด้วยโน้ตเสียงสากลเป็นครั้งแรกในโลก
ด้วยเหตุนี้ระหว่างปี พ.ศ. 2562-2563 เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี การดำเนินงานในพระสังฆราชูปถัมภ์ฯ โครงการพระไตรปิฎกสากลจึงได้ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลพระไตรปิฎกสากลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ทั้งหมด โดยบูรณาการกับโปรแกรมสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาในพระไตรปิฎกสากล เรื่อง การแบ่งพยางค์คำปาฬิอัตโนมัติ The World Tipiṭaka Patent No. 46390 ตลอดจนได้จดทะเบียนบันทึกเป็นลิขสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ อันเป็นการสร้างความคุ้มครองในทางกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเพื่ออนุรักษ์มิให้มีการดัดแปลงต้นฉบับภูมิปัญญาไทยในพระไตรปิฎกให้ผิดเพี้ยนไปจากดั้งเดิม แต่จะให้สิทธิ์แก่ผู้ที่สามารถนำภูมิปัญญาพระไตรปิฎกสากลดังกล่าวต่อยอดบูรณาการกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในอนาคตได้ ปัจจุบันมูลนิธิพระไตรปิฎกสากลสามารถจัดพิมพ์พระไตรปิฎกสากล จากคลังฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ชุดนี้ (The World Tipiṭaka Big Data) เป็น
กลุ่มชุดอักขะระต่างๆ (Akkʰara) 5 กลุ่ม สำหรับชุดพระไตรปิฎกสากลที่สำคัญของโลก คือ
1. กลุ่มชุด อักขะระโรมัน (Pāḷi-Roman Script)
2. กลุ่มชุด อักขะระชาติพันธ์ุไต (Pāḷi-Tai Script)
3. กลุ่มชุด อักขะระปาฬิ-คิรีลลิซะ (รัสเซีย) (Pāḷi-Kirillitsa Script)
4. กลุ่มชุด อักขะระปาฬิ-พินอิน ของจีน (Pāḷi-Pinyin Script)
5. กลุ่มชุด โน้ตเสียงปาฬิ (Pāḷi Notation)
ชุดโน้ตเสียงปาฬิสามารถพิมพ์ประกอบกับอักขะระต่างๆ ในข้อ 1-4 ข้างต้น หรือพิมพ์เป็นชุดคู่ขนานสองชุดอักขะระ (Parallel Corpus) ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงเลือกพิมพ์ผสมระหว่างสองอักขะระใดๆ จากชุดต่างๆ ในข้อ 1-4 ได้ตามความต้องการ
รวมพระไตรปิฎกสากลชุดต่างๆ เบื้องต้นจำนวน 120 ชุดๆ ละ 40 เล่ม ตามต้นฉบับการสังคายนานานาชาติ พ.ศ. 2500 ที่แบ่งเป็นชุด 40 เล่ม ซึ่งหากจะพิมพ์แยกเป็นแต่ละคัมภีร์จะมีจำนวน 4,800 เล่มคัมภีร์ ในระบบชุดหนังสือ หรือ ชุดดิจิทัล
สิริ เพ็ชรไชย ป.ธ. 9
ประธานกองทุนสนทนาธัมม์นำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล.มณีรัตน์ บุนนาค
ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
พ.ศ. 2543-2554
ประธานก่อตั้งมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2555
ท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา
ประธานมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2562-ปัจจุบัน
พันเอก (พิเศษ) สุรธัช บุนนาค
นายกกองทุนสนทนาธัมม์นำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล.มณีรัตน์ บุนนาค
ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน
การดำเนินงานพระไตรปิฎกสากล by Dhamma Society on Scribd